Special 3 Darkside

****คำเตือน****
เนื้อหามีความรุนแรงและหื่นกระหาย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ส่วนใครที่ไม่ชอบแนวนี้แนะนำให้ข้ามไปก่อนนะ
ตอนนี้เฉพาะสายดาร์ก ลุย!
ปล.เนื้อหาส่วนนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับเนื้อเรื่องของฟิค It's nothing
_________________________________



<Gun part>


           ทำยังไงดี...


           ผมเฝ้าถามตัวเองมาตลอด ผมอยู่ที่ร้านอาหารกึ่งร้านเหล้าแห่งหนึ่ง ซึ่งวันนี้มีจัดงานเลี้ยงปิดกอง ผมรู้สึกยินดีมากที่หนังเรื่องนี้มันจบลงไปสักที

            ผมอึดอัด

            ตลอดระยะเวลาการถ่ายทำ ผมทำเต็มที่ตลอดทุกซีน แต่จะมีบางซีนเท่านั้นที่ผมต้อง 'ฝืนทน' เพราะ 'พี่ออฟ' หนึ่งในนักแสดงเรื่องนี้ร่วมซีนกับผมด้วย ถึงจะถ่ายร่วมกันแค่ไม่กี่ฉากแต่ทุกครั้งที่เจอผมจะรู้สึก

          กลัว

          เหตุผลนะหรอ ผมไม่รูว่าเป็นเพราะอะไร พี่เขามักจะมองมาที่ผมแปลกๆ มองแบบไม่ว่างตา สายตาที่เขาใช้ไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรทั้งนั้น เขาแค่มอง..  ผมเดาทางไม่ถูกเลยว่าเขาคิดอะไรกับผมกันแน่ แต่มันทำให้ผมไม่กล้าเข้าใกล้เขาเลย ยกเว้นแค่ตอนเข้าฉากกันเท่านั้น

            ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสี่ทุ่มแล้ว แต่งานเลี้ยงยังไร้วี่แววของการเลิกรา พวกเรานั่งโต๊ะที่เอามาเรียงต่อกันยาวให้เป็นวงเดียวกันจนนั่งได้เกือบ 30 คน ส่วนคนที่ผมกลัวนั้น นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามผม.. ผมไม่รู้ว่าบังเอิญหรือเขาจงใจกันแน่ ผมไม่ค่อยสนิทกับพี่เขาสักเท่าไหร่ ทำไมเขาถึงไม่ไปนั่งกับเพื่อนเขาหละ

            ดวงตาเรียวรีไร้ซึ่งอารมณ์กำลังจ้องมาที่ผมตลอดทุกการกระทำเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ผมก็ยังไม่ชินสักที เขาแค่จ้องมอง เขาไม่พูดไม่คุยหรือไม่ทำอะไรทั้งนั้น ผมได้แต่ภาวนาในใจให้งานนี้มันรีบๆจบไปซะ ผมจะได้หลุดพ้นจากสายตาบ้าๆนี่สักที!


           ผ่านไปเกือบ2ชั่วโมงแล้ว ใกล้เที่ยงคืนเข้าเต็มที เมื่อเห็นว่าพี่ๆเขาเริ่มทยอยกลับ ผมจึงขอตัวกลับบ้าง ผมเดินมายังหน้าร้านเพื่อรอรถแท็กซี่ คือวันนี้รถของผมมันเสียพอดี ไม่รู้จะเสียทำไมในวันที่ต้องกลับดึกด้วย ยอมรับเลยว่าผมกลัว กลัวไปหมดทุกอย่าง กลัวทางเปลี่ยว กลัวแท็กซี่ กลัวคนที่เดินผ่านไปผ่านมา ผมมายืนรอรถได้ห้านาทีแล้วแต่ก็ยังไร้วี่แวว

           "ไปด้วยกันไหม เดี๋ยวไปส่ง" รถเก๋งคันสีเทาดำจองเทียบอยู่ตรงหน้าผม ส่วนผมที่ยังไม่รู้ว่าคนขับเป็นใครจึงก้มไปดูที่หน้าต่างก็พบ..


           คนที่ผมไม่อยากเจอที่สุด


           "ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวรถก็มาแล้ว ไม่รบกวนพี่ดีกว่า" ผมตอบไปอย่างอึกอัก เขาจ้องมองตรงมาที่ผมทุกคำพูด ใครถูกจ้องแบบนี้ก็ต้องมีลนลานกันบ้างแหละ


           "ขึ้นมา" เจ้าของรถออกเสียงแกมคำสั่งให้ผมขึ้นรถ แต่ขอโทษนะ ให้ตายยังไงผมก็ไม่ขึ้นหรอก พี่เขาน่ากลัวยิ่งกว่าแท็กซี่ตอนกลางคืนซะอีก


            "ไม่เป็นไรครับ ผมกลับเองได้" ผมปฏิเสธไปทำให้คนตรงหน้าเริ่มแสดงอาการไม่พอใจขึ้นมาบ้าง


            "บอกให้ขึ้นก็ขึ้นมา อย่าลีลา!" นอกจากเขาจะสั่งผมด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้างแล้วเขายังสั่งผมทางสายตาอีกด้วย เขามองมาที่ผมอย่างกดดัน จนสุดท้ายผมก็พ่ายแพ้และยอมขึ้นรถในที่สุด

            เขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ แค่ออกรถไปตามปกติ ผมเลยบอกที่อยู่ของผมไป บรรยากาศรอบตัวมันชั่งน่าอึดอัด เขาไม่มีแม้แต่จะเปิดเพลงด้วยซ้ำ ผมแทบจะไม่กล้ากระดิกตัวไปไหน ได้แต่นั่งนิ่งๆแข็งเป็นหินมาตลอดทาง เนิ่นนานเท่าไหร่ไม่รู้ หนังตาผมเริ่มหนักขึ้น ตลอดวันมานี่ผมทำอะไรมาเยอะแยะ แถมยังต้องมางานเลี้ยงอีก ถึงผมจะดื่มไปไม่มากแต่มันก็ทำให้สติของผมเลือนหายไปกับความง่วงได้ และก็เผลอหลับบนรถในที่สุด



<Off part>



         คนตัวเล็กหลับไปแล้ว.. จริงๆต้องพูดว่าเป็นฝีมือผมเองแหละ ผมแอบเอายานอนหลับอ่อนๆใส่แก้วให้น้องมันดื่มก่อนที่จะออกจากร้านมา แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะ แค่แปบเดียวก็ตื่นแล้ว ผมไม่ชอบทำอะไรกับท่อนไม้หรอก

          ผมพารถเข้ามาจอดในคอนโดที่ผมอยู่แล้วพาร่างเล็กขี่หลังขึ้นมาบนห้อง ผมบอกมันว่าจะมาส่ง แต่ก็ไม่ได้บอกว่าจะส่งที่ไหนไง ผมไม่ผิดใช่ไหม?

          ผมเฝ้ารอวันนี้มานาน ร่างเล็กที่แสนยั่วยวนน่าถนอมนั้น ผมอดใจไม่ได้ที่จะคอยเฝ้ามองแบบไม่วางตา ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบ.. ผมรู้ได้ในทันทีว่าคนนี้แหละ ควรค่าแก่การเก็บมาไว้ข้างตัวที่สุด ไม่ว่าคนตัวเล็กจะทำอะไรก็ดูมีเสน่ห์ไปหมดทุกอย่าง ตอนขยับปากพูด..ผมก็อยากจะส่งลิ้นเข้าไปสำรวจ ตอนขยับแขนไปมา..ผมก็อยากจะจับแขนนั่นกดลงให้จมเตียง หรือจะตอนที่นั่งลง ขาทั้งสองที่กางออกหน่อยๆมันยิ่งทำให้ผมจิตนาการไปไกลเตลิด

           แต่สิ่งที่อยู่ในมโนภาพเหล่านั้นกลับทำให้คนตัวเล็กกลัวผม สายตาที่มองมาที่ผมมันเต็มไปด้วยความหวาดผวา

           แล้วเป็นแบบนี้ผมควรทำยังไงถึงจะได้คนตัวเล็กมาครอบครองให้เร็วที่สุดหละ?

            ผมวางคนตัวเล็กลงกับเตียงกว้างพร้อมจัดท่าทางให้นอนสบายที่สุด ผมหันไปเปิดลิ้นชักที่เตรียมอุปกรณ์ไว้เพื่อวันนี้..

           กุญแจมือ

           ผมจับแขนทั้งสองข้างชูขึ้นแล้วจัดการล็อคข้อมือเล็กๆนั้นไว้กับหัวเตียงทั้งสองข้าง

           ผมมองภาพตรงหน้าอย่างพอใจแล้วลากเก้าอี้มานั่งลงข้างเตียงเพื่อรอเวลาให้ยาหมดฤทธิ์

           ได้เวลาแล้ว



            ผมค่อยๆคืบคลานขึ้นไปบนเตียง ร่างเล็กยังคงหลับสนิท แต่ไม่เป็นไร


            ผมจะปลุกเอง

(ต่อ)

            ผมซุกไซ้เข้าที่ซอกคอขาวสีน้ำนม กลิ่นหอมอ่อนๆเฉพาะตัว ยิ่งสูดดมยิ่งน่าหลงใหล ยิ่งเข้าใกล้ยิ่งอยากสัมผัสให้มากกว่านี้ ผมฝากรอยทิ้งไว้อย่างเอาแต่ใจ ความเจ็บจี๊ดๆจากการฝากรอยทำให้ร่างเล็กรู้สึกตัวขึ้นและสัมผัสได้ถึงการขาดความอิสระตั้งแต่ยังไม่เปิดเปลือก ทำให้เจ้าตัวรีบเบิกตาขึ้น ความตื่นตะลึงเมื่อพบว่าผมได้คร่อมทับร่างอยู่ มือที่ถูกล่ามเอาไว้ยิ่งทำให้คนตัวเล็กตกใจกลัว

            "พี่ออฟ.. ปล่อยผม!" เสียงสั่นๆที่คนตัวเล็กพยายามทำให้มันแข็งที่สุด สีหน้าหวาดผวา ดวงตาที่สั่นไหวยิ่งตอกย้ำว่าคนตัวเล็กกลัวผมมากแค่ไหน

             ทำไมหรอ ตัวผมมีอะไรให้น่ากลัวนักหนา


            "คงจะไม่ได้หรอกนะ ทำตัวเป็นเด็กดีไว้" ผมบอกด้วยน้ำเสียงนุ่มๆอย่างอ่อนโยนแต่กลับยิ่งทำให้คนตัวเล็กสั่นเข้าไปใหญ่ น้ำใสเริ่มไหลคลอออกมาจากดวงตาแดงกร่ำ


           "พี่จะทำแบบนี้ไม่ได้นะ! ปล่อยผม" คนตัวเล็กเริ่มแผลงฤทธิ์สู้ ขาเริ่มดิ้นขลุกขลักแต่ก็ทำอะไรผมไม่ได้อยู่ดี


           "บอกให้เป็นเด็กดีไง" ผมเลื่อนริมฝีปากไปกระซิบข้างหูแล้วส่งลิ้นเข้าไปแหย่เบาๆข้างใน ทำให้ตัวเล็กหดคอหนี ขนอ่อนตามเรียวขาวแขนพากันลุกซู่


          "อื้อ ปล่อยผมนะ ปล่อย" คนตัวเล็กยังดิ้นไม่เลิก ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร ยังคงหยอกล้อใบหูนิ่มจนคนตัวเล็กครางฮือในลำคอ


          "ไม่ต้องกลัว"


          "อื้ออ" คนตัวเล็กหลุดครางออกมาเมื่อผมส่งมือไปเล่นกับส่วนเด่นนูนชูชันที่หน้าอกอย่างพร้อมรับสัมผัส เสียงของตัวเล็กที่หลุดออกมายิ่งทำให้เร้าสันดานดิบลุกโชนขึ้นมา


          "ของดังๆนะ" ผมกระซิบเสียงแหบพร่าข้างๆหูแล้วงับเข้าเต็มแรง


          "อ๊าา เจ็บ ผมเจ็บ!!" คนตัวเล็กร้องออกมาสุดเสียง ทั้งตัวทั้งขาต่างดิ้นพล่าน ข้อมือที่ถูกล็อคไว้พยายามดึงออกสุดแรงแต่ก็เปล่าประโยชน์จนข้อมือแดงเถือกไปหมด


          "เด็กดี" ผมเคลื่อนเข้าหาริมฝีปากอวบอิ่ม จูบซับอย่างปลอบประโลม แต่คนตัวเล็กก็ยังเม้มปากแน่น น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย จนใบหน้าชุ่มฉ่ำสะท้อนกับแสงไฟวาววับ มันยิ่งทำให้ดู.. น่าขยี้


          ผมออกแรงบดริมฝีปากหนักขึ้น ไล่ลิ้นไปตามร่องกลีบปากอย่างขอทางเข้า แต่คนตัวเล็กก็ยังมีทางทีขัดขืน


          "โอ้ย!" ผมบีบเข้าที่คางเต็มแรง ความเจ็บแสบส่งผลให้ร่างเล็กหลุดเสียงร้องออกมา ผมใช้โอกาสนี้ส่งลิ้นเข้าไปสำรวจภายใน คนตัวเล็กที่พลาดท่าเบี่ยงหน้าไปมาอย่างหลบหนีแต่ติดที่มือผมที่จับปลายคางเอาไว้


             "โอ้ยยย! มึง!"สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อคนตัวเล็กออกแรงกัดเข้าที่ปลายลิ้นของผมจนต้องหยัดตัวลุกขึ้นนั่ง "ดื้อนักใช่ไหม!"


          "อึก... ป.. ปล่อย" ผมบีบเข้าที่ลำคอขาวจนแน่น คือผมคงไม่โง่บีบจนคนตัวเล็กหมดลมหายใจตายหรอกนะ ผมแค่บีบสั่งสอน เสร็จแล้วก็ปล่อยออกมาแค่นั้นแหละ


          คนตัวเล็กที่ขาดลมหายใจไปช่วงหนึ่งรีบกอบโกยอากาศเข้าไปในปอด ใบหน้าขึ้นสีจนแดงกร่ำ จะว่าสงสารมันก็สงสารหรอกนะ


           "บอกให้เป็นเด็กดีไง!" ผมกระชากเสื้อเชิ้ตเนื้อบางจนกระดุมขาดวิ่น ความขาวปรากฏแก่สายตาผม เม็ดเล็กๆสีอ่อนทั้งสองข้างชั่วยั่วยวนราวกับกำลังเชิญชวนให้กลืนกิน ผมก้มลงไปบดขยี้ยอดอกอย่างเอาแต่ใจ ขบกัดดูดเม้มจนแดงไปหมด อีกข้างที่ว่างอยู่ก็ถูกจัดการด้วยมือของผม คนตัวเล็กครางฮืออยู่ในลำคออย่างกลัวว่าเสียงร้องจะหลุดออกมา ขาทั้งสองข้างบีบเข้าหากันแน่นแล้วถูกไปมาอย่างอึดอัด


           ด้วยความที่ผมมีความเมตตากรุณาอยู่บ้าง ผมจึงสงเคราะห์เด็กมันด้วยการบดของใหญ่ลงกับเป้าที่นูนออกมา แรงเสียดสีหนักหน่วงยิ่งทำให้ตัวเล็กดิ้นพล่าน


            "อื้อออ เสียว กันเสียว อ๊าา" เสียงที่ครางออกมาอย่างสุดจะทนยิ่งทำให้ผมได้ใจบดขยี้แรงขึ้น คนตัวเล็กครางลั่นอย่างสุขสม ท่าทีที่ต่อต้านเริ่มหายไปช้าๆ


            เดี๋ยวจะทำให้เคลิ้มกว่านี้อีก


            เมื่อคนตัวเล็กเริ่มสติหลุดไปกับแรงเร่งเร้ากลางลำตัว ผมจึงใช้โอกาสนี้โน้มตัวลงไปกดจูบแล้วส่งลิ้นเข้าไปทักทายอีกครั้ง คนตัวเล็กที่สติหลุดลอยเริ่มตอบรับจูบของผม เสียงดูดกลืนน้ำลายดังไปทั่ว จังหวะอันหยาบโล้นไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง ความเร้าร้อนที่ทำให้เม็ดเหงื่อพลุกพลายออกมาจนเครื่องปรับอากาศก็ไม่สามารถบรรเทาให้เย็นลงได้


          คนตัวเล็กเบี่ยงหน้าหนีไปอีกทางเพื่อขอเวลาได้พักหายใจ ผมจึงผละออกมามองน้องมันหอบหายใจเข้าอย่างเหน็ดเหนื่อย แต่ใครจะไปรู้หละ เสียงแบบเนี่ย


          เซ็กซี่ชิบ


           ผมขยับตัวลงมาเพื่อปลดกางเกงของคนตัวเล็กออก ชั้นในสีขาวที่สวมใส่อยู่มันไม่สามารถบดบังส่วนปลายน่ารักที่โพล่พ้นขอบมาทักทายได้ ผมเลยจัดการถอดมันออกแล้วเหวี่ยงทิ้งไปซะ


          ส่วนกลางลำตัวปรากฏแก่สายตา ผมเลียริมฝีปากที่รู้สึกแห้งผาก แค่เลียปากมันไม่หายหรอกนะ ขอกินน้ำหน่อยแล้วกัน


          "อื้อออ  ไม่เอา อย่าทำตรงปลาย ไม่เอาา" คนตัวเล็กส่ายหัวไปมาเมื่อผมครอบริมฝีปากลงบนส่วนปลายน่ารัก ลิ้นลื้นปาดเกลี่ยอย่างหยอกล้อ คนตัวเล็กจนครางไม่หยุด


            สงสัยจะเสียวปลาย..


            ผมจึงรัวลิ้นลงหนักๆ คนตัวเล็กแอ่นลำตัวขึ้นอย่างเสียวสุดใจ เสียวจนเบิกตากว้าง น้ำตาไหลออกมาเป็นทาง เสียวจนต้องเอาขาทั้งสองข้างมาคล้องลำตัวผมไว้


            ผมชำเรืองมองอาการของคนตัวเล็กอย่างพอใจ กระตุกยิ้มที่มุมปากนิดแล้วส่งแท่งเล็กเข้าไปในโพรงปากจนสุด


          "อ๊ะ..อ๊าาา ไม่ๆๆ พอแล้ว ไม่ไหวแล้ว" ความเสียวที่ทำให้คนตัวเล็กร้องขอให้หยุด แต่ผมไม่เชื่อหรอก ผมเร่งจังหวะขึ้นลงช้าบ้างเร็วจนในที่สุด.. คนใต้ร่างก็กระตุกตัวถี่ๆแล้วปลดปล่อยน้ำคาวขุ่นออกมาเต็มปากผม


          "อื้อออ แฮก..แฮก.. แฮก" คนตัวเล็กหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน น้ำคาวขุ่นที่มีอยู่เต็มปากผมถูกกลืนลงอย่างง่ายดาย ..อะไรก็แล้วแต่ที่ได้จากคนตัวเล็ก มันชั่งหอมหวานจนอยากจะกลืนกินไปทั้งตัว


           ผมวนขึ้นไปจูบกับริมฝีปากเล็กอีกครั้ง คราวนี้คนตัวเล็กตอบสนองผมเป็นอย่างดี ดีจนแทบจะลืมไปแล้วว่าโดนขืนใจมา หึ


          ระหว่างที่คนใต้ล่างยังมัวเมากับการจูบอยู่นั้น ผมก็จับขาเล็กอ้าออกกว้างแล้วแทรกนิ้วเข้าไปในรูเล็กๆ ความคับแน่นทำให้คนร่างเล็กอึดอัด ผมปลอบโยนด้วยการป้อนจูบให้หนักหน่วงขึ้น แล้วเริ่มขยับนิ้วเข้าออกช้าๆ


            "อื้ออ พี่..พี่ออฟ" ความปวดหนึบจู่โจมเข้าที่ตัวผมอย่างจัง เสียงที่แหบพร่าหลุดครางออกมาจนผมอยากจะกระแทกกระทั้นเข้าไปซะเดียวนี้


            แต่ไม่ได้หรอกนะ ขอมัดใจเด็กมันด้วยความประทับใจครั้งแรกดีกว่า


            ผมจึงต้องใช้ความอดทนอย่างมากเพื่อห้ามใจตัวเองเอาไว้ เมื่อเห็นว่าคนใต้ร่างเริ่มชินผมจึงใช้มืออีกข้างเปิดลิ้นชักเพื่อหยิบหลอดเจลใส มาใช้ จะได้ทำอะไรได้ง่ายขึ้น ผมบีบเจลนั่นลงบนนิ้วที่กำลังเปิดทางอยู่แล้วทำการเพิ่มจำนวนนิ้วเข้าไปเป็นสาม


           "มัน..มันแปลก ฮื้ออ มัน..แน่น มันแน่นพี่ออฟ" คนตัวเล็กนิ่วหน้าอย่างสับสน


          คงจะไม่เคยสินะ


           ผมควานหาจุดกระสันในช่องทางสีหวานเพื่อให้คนตัวเล็กรู้สึกดียิ่งขึ้นและในที่สุด


            "อ๊าา ตรงนั้น มัน.. มัน อื้อออ" คนตัวเล็กถึงกับพูดจาขาดห้วงเมื่อผมเจอจุดเสียวที่ตามหา ผมจึงทำการเน้นเข้าไปหนักๆ กดเข้าไปย้ำๆจนตัวเล็กดิ้นอย่างทนไม่ไหว


           "ดีไหม" ผมกระซิบข้างหูแล้วขบลงเบาๆอย่างยั่วอารมณ์รัก คนตัวเล็กทำได้พยักหน้าถี่ๆ  แค่เปล่งเสียงร้องครางยังหยุดไม่ได้แล้วจะให้พูดได้ยังไง ผมค่อนข้างพอใจกับคำตอบจึงตบรางวัลให้ด้วยจูบหวานๆอย่างนุ่มนวล เสียงร้องอื้ออึงอยู่ในลำคอมันชั่งตัดรอนความอดทนของผมเข้าไปทุกที


            ไม่ไหวแล้ว


            ผมดึงมือที่กำลังสอดใส่ออก คนตัวเล็กเกิดจะประท้วงแต่ยังโดนยึดริมฝีปากไว้ ผมจัดการถอนกางเกงขาสั้นพร้อมชั้นในออกอย่างง่ายดาย ชักรูดสองสามทีแล้วนำไปถูไถไปมาที่ปากทางเข้า


         ผมผละจูบออกมานิด แล้ววางหน้าผากแนบชิดกับหน้าผากคนตัวเล็กแล้วมองเข้าไปในดวงตากลมโตที่เยิ้มไปด้วยแรงอารมณ์


          "ขอได้ไหม" ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงถามไปแบบนั้น ถึงผมจะชอบน้ำตาของคนใต้ร่างแต่ผมก็ไม่อยากทำให้เขาเสียใจไปมากกว่านี้อีก


          "..."


          "แค่ตอบมา" ผมใช้น้ำเสียงอ้อนวอนเหมือนกับร้องขอความรักจากคนตรงหน้า ไม่รู้ว่าอะไรทำให้ผมถูกชะตากับคนตัวเล็กได้มากมายขนาดนี้ ผมไม่อยากให้มันจบลงแค่วันนี้วันเดียว ผมอยากมีเขาคนนี้ในทุกๆวันของผม


           "ปล่อยมือผมก่อน นะ ช่วย..ปล่อยมือกันนะ" น้ำเสียงที่อ่อนลงทำเอาใจผมอ่อนยวบไปด้วย การปลดพันธนาการในครั้งนี้มันเสี่ยงมากที่คนใต้ร่างจะหนีไป แต่ผมกลับทำตามที่คนตัวเล็กขอ ผมค้นหาลูกกุญแจมาไขให้คนตัวเล็กอย่างง่ายๆ


            ผมทำแบบนี้ไปทำไมกัน


            เมื่อคนตัวเล็กกลับสู่อิสรภาพอีกครั้งเขาผลักผมให้ล้มออกจากตัว


            ในที่สุด ..ผมก็แพ้สินะ


            ผมไม่รู้เหมือนกันว่ามันเรียกว่าอะไร ความผิดหวัง อกหัก โดนเทหรือจะอะไรก็ชั่ง แต่ความรู้สึกผมมันดาวน์มาก มันหนักอึ้งตรงหัวใจ เหมือนมีอะไรมาเหยียบไว้ แค่โดนปฏิเสธเรื่องบนเตียงมันต้องรู้สึกแย่ขนาดนี้เลยหรอ แค่คนที่ผมเฝ้ามองมาตลอด.. ก็แค่นั้น


        ผมที่ได้แต่นั่งพิงหลังอยู่ตรงหัวเตียงและไม่กล้าจะหันไปมองคนตัวเล็กอีก


            ฟรึ่บ


            หืม?


            ผมไม่แน่ใจว่าคนตัวเล็กเกิดมาเพื่อเป็นความเซอร์ไพรสรึเปล่า แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าคือร่างเล็กที่กำลังคร่อมทับตักของผมเอาไว้ แขนเล็กๆทั้งสองข้างโอบเข้าที่รอบคอของผม ใจผมเต้นแรงมาก แรงจนไม่เป็นจังหวะ แรงจนกลัวว่าผมจะเป็นโรคหัวใจวายตายรึป่าว ภาพตรงหน้าที่แสนเย้ายวนอย่างน่ารักนั้น แกนกลางลำตัวของผมกำลังถูกเสียดสีจากก้นนุ่มนิ่มไปมาจนผมแทบคลั่ง


          "ไว้คุยกันทีหลัง" ตัวเล็กพูดจบก็ยกสะโพกขึ้น ตอนนี้มือผมชื้นเหงื่อไปหมด ตื่นเต้นจนไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี


           ส่วนกลางลำตัวค่อยหลุดหายเข้าไปในร่างกายของตัวเล็ก ความคับแน่นจนต้องขลบกรามขึ้นเป็นสัน ร่างเล็กเปล่งครางไม่เป็นภาษา เสียงแหบพร่าถูกส่งตรงมาที่ข้างๆหูของผม เล็บที่จิกแน่นที่ช่วงไหล่ทั้งสองข้างของผมบ่งบอกว่าตัวเล็กกำลังอดทนมากแค่ไหน


           "อื้ออ มัน.. มันแน่น ต้องเข้าไป..อื้ออ..ไม่หมดแน่ๆเลย" เสียงที่ดังอยู่ข้างๆหูของผมทำให้ผมต้องดึงสติกลับมา นี่คือครั้งแรกของคนตัวเล็ก ถ้าเข้าไม่ได้คือจบแห่เลย


           ผมประคองใบหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาให้มาตอบรับจูบของผม จูบที่ดึงความสนใจจากช่วงล่างให้คลายความเกร็ง จูบจนอารมณ์ดาวน์เมื่อกี้มันหายไปไหนก็ไม่รู้ จูบร้อนแรงจนแทบหลอมละลายเราทั้งสองให้เข้าด้วยกัน


          จังหวะนี้แหละ


          "อ๊าาาา.." ผมกดสะโพกเล็กลงมาพร้อมสวนตัวเองขึ้นไปทำให้ส่วนที่เชื่อมประสานถูกส่งเข้าไปจนสุดทาง ความตรึงแน่นบวกกับแรงกระตุกถี่ๆทำเอาผมแทบคลั่ง มันเหนือกว่าที่จินตนาการไปไกลมาก ผมอยากจะขยับเข้าไปแบบแรงเท่าไหร่ก็ได้ตามใจผม แต่ทำแบบนั้นไม่ได้


           มันต้องค่อยเป็นค่อยไป


           ผมเริ่มต้นขยับอย่างช้าๆ คนตัวเล็กจิกเล็บลงบนลานไหล่ของผมจนมือสั่น ตัวเล็กกัดริมฝีปากไว้แน่นจนเลือดแทบซิบ ความเชื่องช้าเนิบนาบทำให้ได้อารมณ์รักในอีกแบบนึง มันเหมือนจะเรียกว่าการเมคเลิฟแต่ติดที่ว่าคนตัวเล็กไม่ได้มีใจให้ผมเลย


            จากจังหวะที่เนิบนาบ คนตัวเล็กเริ่มคุ้นชินมากยิ่งขึ้นจนเริ่มขยับขึ้นลงเพื่อคุมจังหวะเอง ความไม่ประสีประสาแต่กลับแฝงไปด้วยเสน่ห์อันยั่วยวน ผมจึงร่วมเข้าจังหวะด้วยการสวนกลับไป ความลึกสุดใจทำให้ร่างเล็กครางออกมาไม่ขาดสาย ใบหน้าที่นองไปด้วยน้ำตาแต่มันไม่เหมือนในตอนแรก มันคือน้ำตาแห่งความเสียวกระสั่น


           "ฮื้มม เด็กดี" ผมจับเข้าที่สะโพกทั้งสองเพื่อช่วยคุมจังหวะให้เร็วขึ้น เสียงเนื้อกระทบกันเต็มไปด้วยความหยาบโล้น


          แต่มันยังไม่พอ!


          ผมจับคนตัวเล็กไว้แน่นแล้วหงายหลังตัวเล็กลงกับเตียงโดยที่ส่วนนั้นยังเชื่อมต่อกันอยู่ ขาทั้งสองแยกออกกว้าง แรงกระแทกที่กดเน้นไปยังจุดเสียว


           "พี่ออฟ อาา พี่..ออฟ อื้อออ" ยิ่งคนตัวเล็กครางชื่อผมเท่าไหร่ความรุนแรงยิ่งเพิ่มขึ้นเท่านั้น


            ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าเราผ่านกันไปกี่ท่ากี่น้ำ แต่ผมขอจดจำไปจนชั่วชีวิตเลยว่านี้แหละคือสิ่งที่คุ้มค่าที่สุดในชีวิตตั้งแต่ผมเกิดมาเลย!



**กลับไปส่งฟีคเบคกันในเด็กดีด้วยน้า**

ความคิดเห็น